หากวันนี้คุณอยากจะซื้อ-ขายสินค้าผ่านอินเทอร์เน็ต
หรือ เราเรียกกันว่า
e-commerce วันนี้คงเป็นอะไรที่ง่ายกว่าเมื่อก่อนมากๆ
เพราะด้วยปัจจัยต่าง
ๆ ที่เกี่ยวกับข้องการซื้อ-ขายออนไลน์วันนี้ในเมืองไทย
มีครบถ้วนสมบูรณ์พร้อมที่คุณจะสามารถเริ่มต้นได้ทันที
และปัจจัยหนึ่งที่สำคัญคือ
ระบบชำระเงิน ซึ่งตอนนี้
เมืองไทย มีรูปแบบวิธีชำระเงินผ่านช่องทางออนไลน์ที่หลากหลาย
ที่คุณสามารถเลือกและนำมาใช้กับธุรกิจของคุณได้อย่างไม่อยากเลย..!
และบริการหนึ่งที่กำลังเริ่มบุกเข้ามาในตลาดการค้าขายออนไลน์คือ
การซชำระเงินผ่านบัตรเติมเงิน
บัตรเติมเงินออนไลน์
(Online Store Value Card) คืออะไร?
บัตรเติมเงินออนไลน์
คือ บัตรที่คุณจะต้องนำเงินไปซื้อหรือเติมมูลค่าเข้าไปในบัตร
เพื่อที่คุณจะสามารถนำมูลค่านั้นไปซื้อของ,
จับจ่ายหรือใช้บริการต่างๆ
ซึ่งจะคล้ายๆ กับบัตรเติมเงินปกติ
แต่ส่วนที่แตกกต่างกันคือ
ระบบนี้สามารถนำไปซื้อของผ่านช่องทางออนไลน์หรือทางเว็บไซต์ได้ด้วย
ซึ่งตอนนี้มีผู้ให้บริการหลากหลายรูปแบบที่ให้บริการลักษณะนี้ในประเทศไทย
ได้แก่
- ICE Card (www.icecard.net)
บัตรเติมเงินซื้อบริการต่างๆ
ของเว็บไซต์ ของทางเว็บของค่าย
E-Pay ผู้ให้บริการซื้อบัตรเติมเงินผ่านเครื่องของเทอร์มินอลของ E-Pay ที่กระจายอยู่ทั่วประเทศ
ตามร้านหนังสือ และร้านค้าต่างทั่วประเทศ
- RS RTD Card (www.mixiclub.com)
เป็นบริการบัตรเติมเงินซื้อเพลงของทางค่ายเพลง
RS ซึ่งจากเดิมบัตรนี้จะสามารถใช้ซื้อได้เฉพาะเพลงเท่านั้น
แต่ตอนนี้ บัตรนี้เริ่มขยายขอบเขตการให้บริการ โดยสามารถซื้อสินค้าและบริการอื่นๆ
ได้ด้วย
- A-Cash (www.asiasoft.co.th/web_ACash)
บัตรเติมเงินสำหรับ
เล่นเกมส์ออนไลน์ของ
บริษัท AsiaSoft ซึ่งบัตรเดียวสามารถเล่นเกมส์ทุกเกมส์ในเครือ
เช่น Ragnarok, Gunbound, มังกรหยกออนไลน์,
TS Online
- Mobile Money Cash Card
เป็นบัตรเติมเงินของทางค่าย
True ที่สามารถเติมเงินค่าบริการมือถือ
หรือนำไปใช้ซื้อบริการต่างๆ
ของ True ได้เช่น www.TrueWorld.net และกำลังขยายบริการออกไปยังสินค้าอื่นๆ
- One-2-Call (www.one-2-call.com)
บัตรเติมเงิน
One-2-Call ที่ปกติสามารถเติมเงินค่าโทรศัพท์มือถือ
แต่ตอนนี้ สามารถนำไปซื้อบริการต่างๆ
ของทาง AIS ได้เช่น ซื้อบริการของ
www.BuddyBB.net
- Thai Samart Card (www.thaismartcard.co.th)
บัตรเงินสดของทางค่ายใหญ่
โดยร่วมมือกับทางทาง
VISA Cash ซึ่งจะสามารถใช้จับจ่ายซื้อสินค้าผ่าน
7-Eleven ได้ทั่วประเทศหรือบริการต่างๆ
ของค่าย True โดยมีจุดเด่นที่มี
การ์ดแบบไร้สัมผัส (Contactless
Card) ที่จะช่วยทำให้การซื้อของรวดเร็วยิ่งขึ้น
- บริการบัตรเครดิตชั่วคราว
(Virtual Credit Card)
เป็นบริการที่คุณสามารถสร้างบัตรเครดิตของคุณขึ้นมาใช้ซื้อของในโลกออนไลน์ได้
โดยวิธีแค่เพียงซื้อบัตรเครดิตนี้มาใช้ได้ทันที
และสามารถกำหนดวงเงินที่ต้องการจะใช้จ่ายได้อย่างสะดวกสะบาย
ปลอดภัยกว่าการใช้บัตรเครดิตทั่วไป
และยังเป็นบริการที่รองรับโดย
VISA โดยผู้ที่ให้บริการลักษณะนี้ได้แก่
- K-Web Card (www.kasikornbank.com)
บริการนี้เป็นบริการของทางธนาคารกสิกรไทย
สำหรับผู้ที่มีบัญชีของธนาคารกสิกรไทย
สามารถนำเงินในบัญชีมาสร้างบัตรเครดิตชั่วคราว
สำหรับใช้บริการซื้อสินค้าในเว็บไซต์ได้ทันที
โดยวงเงินซื้อสินค้าที่ต้องการสามารถกำหนดได้ระหว่าง
2,000 – 100,000 บาท
- A-Plus Card (www.aplus-card.com)
เป็นบริการลักษณะเดียวกับทาง
ธนาคารกสิกรไทย แต่คุณจะต้องเปิดบริการนี้กับทาง
A-Plus Card ก่อน และสามารถเติมเงินเข้าสู่บัตรของท่านได้ในภายหลัง
บัตรมีอายุใช้งานได้
2 ปี
ทั้งหมดนี้เป็นเพียงส่วนหนึ่งของบรรดาผู้ให้บริการ
บัตรเติมเงินออนไลน์
ที่สามารถชำระเงิน สินค้าหรือบริการต่างๆ
ผ่านเว็บไซต์ได้ ซึ่งกำลังมีการแข่งขันอย่างมากในตลาดแห่งนี้
ปัจจัยอะไรจะส่งผลให้
บัตรเติมเงินออนไลน์
เกิดในเมืองไทย?
เนื่องจากมีผู้ให้บริการประเภทนี้มากในตลาด
แต่เมื่อเปรียบเทียบกับ
จำนวนลูกค้าในตลาดอาจจะยังไม่เยอะมากในช่วงเริ่มต้นของ
เทคโนโลยีแบบนี้ แต่
ทุกๆ ผู้ให้บริการต่างก็เชื่อมั่นว่า
บริการนี้จะนำเม็ดเงินและผลกำไร
ตอบแทนกลับมาหาก มีผู้ใช้บริการเพิ่มมากขึ้นในอนาคต
โดยตอนนี้สิ่งที่ให้บริการส่วนใหญ่เร่ง
ดำเนินการคือ
1. การหา
Partner ในการเข้ามาใช้ช่องทางการชำระเงินของตน
เพื่อขยายช่องทางการให้บริการออกไปให้มากที่สุด 2.
การปรับบริการสามารถชำระและใช้จ่ายง่ายและ
สะดวกแก่ผู้ซื้อมากที่สุด 3.
สร้างฐานลูกค้าให้มากที่สุดในระบบ 4.
สร้างช่องทางการเข้ามาซื้อหรือใช้บริการนี้ให้ได้ง่ายและมากที่สุด
แต่สิ่งหนึ่งที่อาจจะดูเป็นอุปสรรค์ของการเกิดการชำระเงินรูปแบบนี้คือ
- ความพร้อมและจำนวนผู้ประกอบการออนไลน์ที่จะใช้ระบบนี้ - ระบบการเชื่อมต่อกับระบบชำระเงินต่างๆ
เหล่านี้ แต่ละระบบมีความยุ่งยากและซับซ้อน -
จำนวนผู้ที่จะเข้ามาใช้บริการอาจจะยังไม่มากในช่วงแรก ซึ่งทั้งหมดนี้ดูเหมือนจะเป็นการบ้านสำหรับผู้ให้บริการในแต่ละรายว่าจะสามารถฝ่าฟัน
อุปสรรคต่าง เหล่านี้
ไปได้อย่างไร เพราะบริการต่าง
ๆแต่ละบริการก็มีกลุ่มเป้าหมายที่ไม่แตกต่างกันมากนัก
และการแข่งขันระหว่างบรรดาผู้ให้บริการกับมีสูงมากขึ้นในระหว่างบรรดาผู้ให้บริการ
บัตรเติมเงินออนไลน์
ด้วยกัน และหากมองดูตลาดของระบบชำระเงินออนไลน์โดยรวม
ที่มีทั้งระบบชำระเงินผ่านบัตรเครดิต
หรือ ระบบชำระเงินผ่านโทรศัพท์มือถือ
(Mobile Payment) อยู่ในตอนนี้ด้วยแล้วละก็
ยิ่งทำให้การแข่งขันในตลาดนี้ดูจะสนุกไม่น้อย
นี้ก็ถือเป็นอีกก้าวหนึ่งของวงการชำระเงินออนไลน์เมืองไทยที่จะมีการแข่งขันกัน
เพื่อส่งเสริมให้ตลาดการซื้อ-ขายของออนไลน์หรือ
E-Commerce เติบโตไปได้อย่างรวดเร็ว
ยังไงบรรดาผู้ประกอบการก็ลองตัดสินใจ
ดูนะครับ ว่าจะเลือกระบบชำระเงินออนไลน์แบบไหน
สำหรับธุรกิจของท่าน
แต่ถ้าไหวก็มีมันซะทั้งหมดละครับ
ลูกค้าจ้าวไหนมา เราก็รับได้ซะหมดเลย
ที่มาของข้อมูลนี้
http://www.pawoot.com
ขอบพระคุณ คุณพาวุฒิ เป็นอย่างสูงครับและถือโฮกาสนี้ขออณุญาตินำข้อความนี้มาเผยแพร่นะครับ |